Gunpla แบ่งตามขนาดต่างๆ ดังนี้
1. High Grade ( HG )
High Grade จะถูกเรียกย่อ ๆ กันในวงการว่า HG ปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ
*HG ขนาด 1/144 ซึ่งจะมีความสูงประมาณ 13 ซม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดเล็กที่สุดในตระกูลของกันพลาถ้าไม่รวม SD ส่วนราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1200 เยน ขึ้นไป
*HG ขนาด 1/100 ซึ่งจะมีความสูงประมาณ 18 ซม. ก็จะใหญ่ขึ้นมาอีก ราคาเริ่มต้นจะเริ่มตั้งแต่ 2000 เยน ขึ้นไป ปัจจุบันนี้ HG นั้นด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจากแต่ก่อนทำให้ ตอนนี้ HG ซีรีย์รุ่นหลัง ๆ ตั้งแต่ภาค Seed เป็นต้นมา สามารถแยกสีออกมาได้ดี และจุดขยับที่ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถจัดท่าทางได้หลากหลาย สติกเกอร์และดีคอลมีขายออกมาตามซีรีย์ของหุุ่นกันเลยทีเดียว HG 1/144
วีธีดูว่ากล่องนี้ใช่ HG 1/144 หรือเปล่า วิธีการดูที่บนกล่องเลย จะมีสัญลักษณ์เขียนว่า HG อยู่ด้านบนกล่องและด้านข้างกล่อง รวมถึงบอกด้วยว่าขนาดเท่าไหร่ และเป็น Gundam จากซีรีย์ไหน
HG 1/100
วิธีการดูนั้นก็เหมือนกับ 1/144 ดูได้ด้านบนและด้านข้างของกล่อง HG 1/100 นั้นในภาคหลัง ๆ ที่ทำออกมาตั้งแต่ภาค Seed นั้นถูกพัฒนาจุดขยับและการแยกสีออกมาได้ดีมาก รายละเอียดดีกว่า 1/144 จนมาถึงภาค OO นับว่าทำออกมาได้ดีที่สุดในตอนนี้ของ HG และมีขนาดใหญ่กว่าด้วย
ที่นี้ HG ตรงด้านบนกล่องก็จะเขียนแบ่งออกเป็นหลายแบบ เช่น HGUC , HGAW , HG ภาคอื่น ๆ อีกงั้นขออธิบายไปทีละอันแล้วกัน
HGUC
High Grade Universal Century หมายถึง กันพลาไฮเกรดที่ปรากฏอยู่แต่ในศักราช UC (Universal Century) เช่นกันดั้มภาคแรก-0079, Z, ZZ เป็นต้น HGUC นั้นเป็นการพัฒนาเอากันพลาเก่าๆ และ/หรือ พัฒนากันพลาตัวใหม่ๆที่ยังไม่ออก มาทำเป็นซีรีย์ในรูปแบบของ 1/144 ซึ่งขอบอกได้เลยว่า HGUC นั้น เป็น HG 1/144 ที่มีคุณภาพค่อนข้างจะเรียกได้ว่าดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้ง สัดส่วนที่สมจริงขึ้น การแยกสีที่มากกว่ากันพลาสมัยก่อน จุดขยับ-การจัดท่าทาง สติกเกอร์และดีคอลจัดจำหน่ายออกมาเป็นซีรีย์ HGUC ที่ครองใจนักสะสมกันพลาขนาด 1/144 อย่างเหนียวแน่นเรื่อยมา บางตัวนั้นแม้จะมีขนาดแค่ 1/144 แต่กลับมีสีสันและรายละเอียดงดงามแม้ไม่ได้ตกแต่งเพิ่มเติม ยิ่งในภาคหลัง ๆ ที่ทำออกมาเช่น ภาคยูนิคอนทำออกมาได้ดีทีเดียว
HGFC
High Grade Future Century คือกันพลาในภาค G Gundam นั้นเองแต่ก่อนตอนออกมาเป็น HG ครั้งแรกนั้นคุณภาพ สัดส่วนและการทำสีมาไม่ดีเท่าที่ควรการจัดท่าทางทำได้ไม่ได้มาก แต่หลังจากปี 2010 ทาง Bandai ได้นำกลับมาทำใหม่ ซึ่งการแยกสีและจุดขยับทำได้ดีกว่าเดิมมากเลยทีเดียว
HG Gundam-W
เป็น HG ที่ออกมาเป็นของซีรีย์ Gundam Wing ซึ่งภาคนี้ทำออกมานานแล้วยังไม่มีการ Reproduct ทำขึ้นมาใหม่ แต่ของเก่ายังพอหาซื้อได้ แต่คุณภาพในยุคนั้นอาจจะออกมาไม่ดีสู้รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาไม่ได้ สัดส่วนไม่ดี แยกสีออกมาน้อย รวมถึงจุดขยับต่าง ๆ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านบนบอกว่าเป็น ภาคในของ Gundam Wing กรอบสีแดงด้านล่างบอกว่าเป็น HG ซีรีย์ W
เป็น HG ที่ออกมาเป็นของซีรีย์ Gundam Wing ซึ่งภาคนี้ทำออกมานานแล้วยังไม่มีการ Reproduct ทำขึ้นมาใหม่ แต่ของเก่ายังพอหาซื้อได้ แต่คุณภาพในยุคนั้นอาจจะออกมาไม่ดีสู้รุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาไม่ได้ สัดส่วนไม่ดี แยกสีออกมาน้อย รวมถึงจุดขยับต่าง ๆ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าไหร่
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านบนบอกว่าเป็น ภาคในของ Gundam Wing กรอบสีแดงด้านล่างบอกว่าเป็น HG ซีรีย์ W
HGAW เป็นภาคของ After War หรือที่เราเรียกว่าภาคของ Gundam X ซึ่งตอนแรกที่ออกมาคุณภาพของพลาสติกจะเหมือนกับ Gundam Wing มีการแยกสีมาน้อยและจุดขยับทำได้ไม่ดี แต่ตั้งแต่ปี 2010 ได้ทำการ Reproduct ทำออกมาใหม่โดยทำใหม่เลยเช่นตัว Gundam X ทำให้ 1/144 ทำออกมาได้ดีมากในการแยกสี และจุดขยับทำได้ดีกว่าเดิมมากทีเดียว จัดท่าทางได้มากและลูกเล่นเหมือน HG รุ่นใหม่ ๆ เลย
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงบอกว่าเป็น HG After War คือเป็นภาคของ Gundam X
HG Gundam Seed
HG Gundam Seed มีออกมามากมายตามซีรีย์ ตั้งแต่ Seed / Seed Destiny / Seed Astray และอีกมากมาย แต่ในซีรีย์นี้เป็นซีรีย์ที่ได้รับความนิยม คุณภาพของพลาสติกดีขึ้นจากเดิม บางตัวสามารถทำการแปลงร่างได้อย่างพวก Gaia การแยกสีของพลาสติกทำได้ดี จุดขยับทำได้ดีมาก จึงเป็นที่นิยมกันเพราะราคาไม่แพง
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านซ้ายมือจะบอกว่าเป็นภาคของ HG Gundam Seed ส่วนกรอบสีแดงด้านขวามือบอกว่ามาจาก Seed ในซีรีย์ไหนตัวอย่างมาจาก Seed Astray
HG Gundam OO
HG Gundam OO เป็นภาคที่มาแรงมากในการ์ตูนเลยมีผลทำให้หุ่นในภาคนี้ได้รับความนิยมจากผู้เล่น เพราะเนื้อพลาสติกที่ดีขึ้นกว่าเก่าเยอะ + การแยกสีที่ดีแทบไม่ต้องทำสีเพิ่มเติม จุดขยับที่ดีขึ้นแต่ก่อนมาก และสัดส่วนที่ดูสมจริง และตามมาด้วยลูกเล่นมากมาย การแปลงร่างอย่างตัว Arios หรือ Harute ทำให้เป็น HG ที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านล่างซ้ายมือจะบอกว่าเป็น HG ภาค OO ส่วนกรอบสีแดงด้านบนขวามือบอกว่ามาจาก ซีรีย์ไหนของ OO ในตัวอย่างเป็นภาค OO The Movie
HG Gunpla Builders
HG Gunpla Builder เป็น HG ที่ทำออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Bandai ใช้ชื่อในการ์ตูนว่าภาค Gunpla Builders Beginning G จะเป็นตัวหุ่นรุ่นเก่า ๆ นำมาทำใหม่เพิ่ม Option หรือทำสีใหม่ไปเลย HG ในภาคนี้ใช้เทคโนโลยีใหม่แล้วทำให้แยกสีออกมาดี จุดขัยบดี เหมือนกับในภาค OO
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงจะบอกว่าเป็น HG Gunpla Builders และเป็นภาคของ Gunpla Builders Beginning G
HG Gundam AGE
HG Gundam AGE เริ่มฉาย ตุลาคม 2011 แต่สินค้าของเล่นออกกันมาให้เล่นก่อนจะฉายเสียอีก
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงบอกว่าเป็น HG Gundam AGE มาจากภาค Gundam AGE ขนาด 1/144
HG Gundam Build Fighter เป็นกัมดั้มภาคล่าสุดที่ออกฉายในปี2013 เนื่องจากเนื้อหานั้นเกี่ยวข้องกับการประกอบกันพลาเพื่อนำมาแข่งขันกัน ดังนั้นเชื่อว่าน่าจะโดนใจกลุ่มคนดูที่ชื่นชอบกันพลาอย่างมาก และแน่นอนว่า หุ่นจากซีรีย์นี้ก็มีออกมามากมายหลายแบบเช่นกัน
ตัวอย่าง : กล่องที่เห็นจะบอกว่าเป็น HGBF หรือบอกว่าเป็น HG Gundam Build Fighter 1/144
2. Big Scale , Non Grade 1/60
Big Scale หรืออาจจะเรียกว่า Non Grage ก็ได้จะมีขนาดใหญ่มากคือ 1/60 ชิ้นพลาสติก การแยกสีของชิ้นงาน และการประกอบจะเหมือนกับ HG 1/144 หรือ 1/100 เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้นเอง ราคาบางตัวอาจจะเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับ MG เลยก็ว่าได้ โดยขนาด Big Scale , Non Grage นี้จะมีออกมาน้อยมาก จะออกมาไม่กี่ตัวแต่จะออกตัวเด่น ๆ จะมี V2 Gundam , G Gundam , Shining Gundam , Strike Gundam , Freedom Gundam , Force Impulse Gundam และ Gundam Exia
ตัวอย่าง : กรอบสีแดงจะเขียนอย่างชัดเจนเลยว่า 1/60 ถ้าเป็นกล่องของภาค Seed จะมีเขียนว่า Big Scale ด้วยหน้ากล่อง
6 . Perfect Grade 1/60 ( PG )

Perfect Grade เรียกกันสั้น ๆ ว่า PG
PG นั้นชื่อมันก็บอกอยุ่แล้วว่า Perfect แสดงถึงความสมบูรณ์แบบของกันพลา สัดส่วน การแยกสี จุดขยับ ทุกอย่างทำออกมาได้สมบูรณ์มาก ๆ รายละเอียดภายในมีโครงในเหมือน MG แต่มีขนาดใหญ่กว่าแต่ลายละเอยีดเยอะกว่ามาก มีความแข็งแรง นอกจากนั้นยังมีลูกเล่นเช่นไฟที่อยู่ภายในตัวหุ่น แต่ราคานี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเหมือนกันว่ามันจะแพงขนาดไหน ราคา 15000 เยน up
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงบนกล่องด้านข้างกล่องจะเขียนอย่างชัดเจนว่า Perfect Grade และกล่องจะมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่า Mega size อีก
Credit From : bandai-hobby.net , Dalong , Thaigundam , M Y D E S I G N - C L U B . N E T
2. Big Scale , Non Grade 1/60
Big Scale หรืออาจจะเรียกว่า Non Grage ก็ได้จะมีขนาดใหญ่มากคือ 1/60 ชิ้นพลาสติก การแยกสีของชิ้นงาน และการประกอบจะเหมือนกับ HG 1/144 หรือ 1/100 เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้นเอง ราคาบางตัวอาจจะเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับ MG เลยก็ว่าได้ โดยขนาด Big Scale , Non Grage นี้จะมีออกมาน้อยมาก จะออกมาไม่กี่ตัวแต่จะออกตัวเด่น ๆ จะมี V2 Gundam , G Gundam , Shining Gundam , Strike Gundam , Freedom Gundam , Force Impulse Gundam และ Gundam Exia
ตัวอย่าง : กรอบสีแดงจะเขียนอย่างชัดเจนเลยว่า 1/60 ถ้าเป็นกล่องของภาค Seed จะมีเขียนว่า Big Scale ด้วยหน้ากล่อง
3. Master Grade ( MG )

Master Grade ถูกเรียกสั้น ๆ กันว่า MG
MG นั้นนับว่าเป็นเกรดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีสัดส่วนที่เหมือนจริงและสวยงามมาก และราคาค่อนข้างแพงอยู่แต่ถ้าเปรียบเทียบกับความแข็งแรงและเนื้องานแล้วนับว่าคุ้ม ราคาเริ่มต้น MG จะเริ่มต้นส่วนใหญ่ที่ 3500 เยนขึ้นไป
MG จะมีจุดเด่นหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบโครงใน หรือ Inner Frame นอกจากจำทำให้ตัวหุ่นแข็งแรงแล้ว ยังทำให้เคลื่อนไหวได้เหมือนจริงมากขึ้้นอีกด้วย จัดท่าทางได้มากขึ้นกว่า อาวุธและลูกเล่นที่มากกว่า HG การฉีดสีพลาสติกที่แยกออกมาได้ดี แบบไม่ต้องทำสีเพิ่มได้เลยก็สวยงามแล้ว นิ้วที่สามารถขยับได้มากกว่า HG โดย MG ส่วนใหญ่จะทำทุก ๆ ภาคของ Gundam อยู่แล้วอาจจะเลือกตัวเด่น ๆ ในแต่ละภาคมาทำหรือแล้วแต่ Bandai เขานั้นละว่าจะออก MG ตัวไหนบ้างแต่อย่างน้อยมันออกเดือนละตัว
ตัวอย่างที่ 1 รูปบน : ในกรอบสีแดงจะเขียนสัญลักษณ์ของ MG สีทอง ส่วนด้านล่างจะเป็นโลโก้ของภาคนั้น ๆ อย่างในตัวอย่างเป็น MG ของภาค OO

Master Grade ถูกเรียกสั้น ๆ กันว่า MG
MG นั้นนับว่าเป็นเกรดที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีสัดส่วนที่เหมือนจริงและสวยงามมาก และราคาค่อนข้างแพงอยู่แต่ถ้าเปรียบเทียบกับความแข็งแรงและเนื้องานแล้วนับว่าคุ้ม ราคาเริ่มต้น MG จะเริ่มต้นส่วนใหญ่ที่ 3500 เยนขึ้นไป
MG จะมีจุดเด่นหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบโครงใน หรือ Inner Frame นอกจากจำทำให้ตัวหุ่นแข็งแรงแล้ว ยังทำให้เคลื่อนไหวได้เหมือนจริงมากขึ้้นอีกด้วย จัดท่าทางได้มากขึ้นกว่า อาวุธและลูกเล่นที่มากกว่า HG การฉีดสีพลาสติกที่แยกออกมาได้ดี แบบไม่ต้องทำสีเพิ่มได้เลยก็สวยงามแล้ว นิ้วที่สามารถขยับได้มากกว่า HG โดย MG ส่วนใหญ่จะทำทุก ๆ ภาคของ Gundam อยู่แล้วอาจจะเลือกตัวเด่น ๆ ในแต่ละภาคมาทำหรือแล้วแต่ Bandai เขานั้นละว่าจะออก MG ตัวไหนบ้างแต่อย่างน้อยมันออกเดือนละตัว
ตัวอย่างที่ 1 รูปบน : ในกรอบสีแดงจะเขียนสัญลักษณ์ของ MG สีทอง ส่วนด้านล่างจะเป็นโลโก้ของภาคนั้น ๆ อย่างในตัวอย่างเป็น MG ของภาค OO
ตัวอย่างที่ 2 รูปล่าง : จะให้เห็นว่าในส่วนของ MG นั้นจะมีโครงในก่อนเพื่อช่วยในความแข็งแรงและความสมจริงของหุ่น
MG 30th

MG 30th คืออะไร ? มันคือ MG นั้นละครับแต่เมื่อปี 2010 กันพลาครบรอบ 30 ปี ทาง Bandai เลยทำตัวเก่าออกมาขายแต่เพิ่มชิ้นใสเข้าไปในกล่องแต่ขายราคาเดิม เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงจะเขียนบอกว่า MG เหมือนกล่องปรกติ แต่ถ้ากล่องไหนมีชิ้นใสเพิ่มเข้ามาจะมี Logo ครบรอบ 30 ปี ของ Gunpla ต่อท้ายมาด้วยเหมือนในรูป

MG 30th คืออะไร ? มันคือ MG นั้นละครับแต่เมื่อปี 2010 กันพลาครบรอบ 30 ปี ทาง Bandai เลยทำตัวเก่าออกมาขายแต่เพิ่มชิ้นใสเข้าไปในกล่องแต่ขายราคาเดิม เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงจะเขียนบอกว่า MG เหมือนกล่องปรกติ แต่ถ้ากล่องไหนมีชิ้นใสเพิ่มเข้ามาจะมี Logo ครบรอบ 30 ปี ของ Gunpla ต่อท้ายมาด้วยเหมือนในรูป
4. Mega Size Model 1/48

Mega Size Model เป็น Model โปรเจก ครบรอบ 30 ปีของกันพลาทำออกมาขายครั้งแรกในปี 2010 ซึ่งมีขนาดใหญ่มากคือ 1/48 หรือสูง 375 mm ด้วยกัน การประกอบนั้นทาง Bandai บอกเลยว่าไม่ต้องใช้คีมตัดทั้งนั้นเพราะสามารถแกออกมาจากรันเนอร์ได้โดยง่าย ขนาดคุณภาพเทียบเท่ากับ HG รุ่นล่าสุด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7000 เยน ตอนนี้ออกมาแล้ว 3 ตัวคือ RX78-2 แล้วก็ Char s Zaku , Zaku II และในปลายปีนีจะออกอีกตัวต้อนรับภาคใหม่อย่าง Gundam AGE ก็จะมากับขนาด 1/48 เหมือนกัน
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านหน้ากล่องจะเขียนไว้อย่างชัดเจนเลยว่าเป็น Mega Size และที่สังเกตุชัดคือกล่องใหญ่มาก ๆ

Mega Size Model เป็น Model โปรเจก ครบรอบ 30 ปีของกันพลาทำออกมาขายครั้งแรกในปี 2010 ซึ่งมีขนาดใหญ่มากคือ 1/48 หรือสูง 375 mm ด้วยกัน การประกอบนั้นทาง Bandai บอกเลยว่าไม่ต้องใช้คีมตัดทั้งนั้นเพราะสามารถแกออกมาจากรันเนอร์ได้โดยง่าย ขนาดคุณภาพเทียบเท่ากับ HG รุ่นล่าสุด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7000 เยน ตอนนี้ออกมาแล้ว 3 ตัวคือ RX78-2 แล้วก็ Char s Zaku , Zaku II และในปลายปีนีจะออกอีกตัวต้อนรับภาคใหม่อย่าง Gundam AGE ก็จะมากับขนาด 1/48 เหมือนกัน
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงด้านหน้ากล่องจะเขียนไว้อย่างชัดเจนเลยว่าเป็น Mega Size และที่สังเกตุชัดคือกล่องใหญ่มาก ๆ
5. Real Grade 1/144 ( RG )

Real Grade หรือเรียกสั้น ๆ ว่า RG
RG นั้นเอาแบบอธิบายง่าย ๆ นั้นคือ MG ย่อส่วนมาในขนาด 1/144 นั้นเองเพราะแต่เดิม 1/144 จะถูกทำออกมาในรูปแบบ HG เป็นส่วนใหญ่แต่ในปี 2010 Bandai ได้แตกไลน์ใหม่ออกมาคือมีขนาด 1/144 แต่มีโครงใน มีจุดขยับทุกอย่างใกล้เคียง MG มี Decal มาให้เหมือน MG แต่ราคาจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง HG และ MG นั้นเอง ราคาเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ 2500 เยน และคาดว่าในอนาคต RG มาแรงแน่นอน
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดง บนกล่องด้านบนและด้านข้างจะมี Logo ของ RG อยู่บนกล่อง

Real Grade หรือเรียกสั้น ๆ ว่า RG
RG นั้นเอาแบบอธิบายง่าย ๆ นั้นคือ MG ย่อส่วนมาในขนาด 1/144 นั้นเองเพราะแต่เดิม 1/144 จะถูกทำออกมาในรูปแบบ HG เป็นส่วนใหญ่แต่ในปี 2010 Bandai ได้แตกไลน์ใหม่ออกมาคือมีขนาด 1/144 แต่มีโครงใน มีจุดขยับทุกอย่างใกล้เคียง MG มี Decal มาให้เหมือน MG แต่ราคาจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง HG และ MG นั้นเอง ราคาเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ 2500 เยน และคาดว่าในอนาคต RG มาแรงแน่นอน
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดง บนกล่องด้านบนและด้านข้างจะมี Logo ของ RG อยู่บนกล่อง
6 . Perfect Grade 1/60 ( PG )

Perfect Grade เรียกกันสั้น ๆ ว่า PG
PG นั้นชื่อมันก็บอกอยุ่แล้วว่า Perfect แสดงถึงความสมบูรณ์แบบของกันพลา สัดส่วน การแยกสี จุดขยับ ทุกอย่างทำออกมาได้สมบูรณ์มาก ๆ รายละเอียดภายในมีโครงในเหมือน MG แต่มีขนาดใหญ่กว่าแต่ลายละเอยีดเยอะกว่ามาก มีความแข็งแรง นอกจากนั้นยังมีลูกเล่นเช่นไฟที่อยู่ภายในตัวหุ่น แต่ราคานี้ก็ไม่ต้องพูดถึงเหมือนกันว่ามันจะแพงขนาดไหน ราคา 15000 เยน up
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดงบนกล่องด้านข้างกล่องจะเขียนอย่างชัดเจนว่า Perfect Grade และกล่องจะมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่า Mega size อีก
7 . SD , BB ( Super Deform )

SD หรือหลายคนอาจจะเรียกว่า BB ก็ได้
ซึ่งก็สมกับชื่อของสินค้า สินค้าในไลน์นี้ได้แก่ SD G-Generation, SD BB GUNDAM สินค้าไม่มีการระบุสเกล NON-SCALE โดยสินค้ามักทำตามรูปแบบในการ์ตูนอนิเมชั่น หรือมักหยิบยกตัวละครในตำนานมาทำดีไซน์ในรูปแบบหุ่นยนต์กันดั้ม แต่ตัวหุ่นมีลักษณะเฉพาะตัว คือ หัวโต ตัวเตี้ย แขน ขาสั้น และเน้นแนวน่ารัก ชุดคิทนี้จะมีความง่ายในการประกอบ แต่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว โพสท่า และมักต้องการการทำสี รวมถึงทำรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้งานที่เสร็จสมบรูณ์ สินค้าที่ได้รับความนิยม ก็จะมีหลายภาคด้วยกันตามซีรีย์ของกันดั้ม แต่ตอนหลังได้จับเอาประวัติศาสตร์ของจีน คือ สามก๊ก มาทำเป็น SD ได้รับเสียงตอบรับมากมาย เพราะราคาที่ไม่แพงมากนั้นเอง ราคาเริ่มต้นที่ 400 เยนขึ้นไปแล้วแต่ Option ของแต่ละตัว
ตัวอย่างกล่องด้านบน : ถ้าเป็น SD , BB ตามซีรีย์นั้นดูจากภาพบนหน้ากล่องก็รู้แล้วว่าเป็น Sd , BB แน่นอน แต่ในกรอบสีแดงคือหน้ากล่องมันจะบอกว่ามาจากภาคไหนของกันดั้ม
ตัวอย่างกล่องด้านล่าง : เป็น SD , BB ที่กำลังขายดีในตอนนี้นั้นคือภาคสามก๊ก ในกรอบสีแดงจะเป็น Logo ของภาคสามก๊กนั้นเอง

SD หรือหลายคนอาจจะเรียกว่า BB ก็ได้
ซึ่งก็สมกับชื่อของสินค้า สินค้าในไลน์นี้ได้แก่ SD G-Generation, SD BB GUNDAM สินค้าไม่มีการระบุสเกล NON-SCALE โดยสินค้ามักทำตามรูปแบบในการ์ตูนอนิเมชั่น หรือมักหยิบยกตัวละครในตำนานมาทำดีไซน์ในรูปแบบหุ่นยนต์กันดั้ม แต่ตัวหุ่นมีลักษณะเฉพาะตัว คือ หัวโต ตัวเตี้ย แขน ขาสั้น และเน้นแนวน่ารัก ชุดคิทนี้จะมีความง่ายในการประกอบ แต่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว โพสท่า และมักต้องการการทำสี รวมถึงทำรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้ได้งานที่เสร็จสมบรูณ์ สินค้าที่ได้รับความนิยม ก็จะมีหลายภาคด้วยกันตามซีรีย์ของกันดั้ม แต่ตอนหลังได้จับเอาประวัติศาสตร์ของจีน คือ สามก๊ก มาทำเป็น SD ได้รับเสียงตอบรับมากมาย เพราะราคาที่ไม่แพงมากนั้นเอง ราคาเริ่มต้นที่ 400 เยนขึ้นไปแล้วแต่ Option ของแต่ละตัว
ตัวอย่างกล่องด้านบน : ถ้าเป็น SD , BB ตามซีรีย์นั้นดูจากภาพบนหน้ากล่องก็รู้แล้วว่าเป็น Sd , BB แน่นอน แต่ในกรอบสีแดงคือหน้ากล่องมันจะบอกว่ามาจากภาคไหนของกันดั้ม
ตัวอย่างกล่องด้านล่าง : เป็น SD , BB ที่กำลังขายดีในตอนนี้นั้นคือภาคสามก๊ก ในกรอบสีแดงจะเป็น Logo ของภาคสามก๊กนั้นเอง
8. First Grade 1/144 ( FG )

First Grade เรียกกันสั้น ๆ ว่า FG
เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2000 โดยเริ่มทำจาก ชุดคิท พลาสติกโมเดล 3 แบบได้แก่ กันดั้ม RX-78-2, MS-06 ZAKU II Mass-Production Type และ MS-06S Zaku II Char Custom ชุดคิทนี้ไม่แยกสีมาให้ สีเดียวทั้งตัว จัดว่าต้องทำสีเองทั้งตัว ในชุดแรกเมื่อประกอบเสร็จ ส่วนใหญ่จะขยับข้อศอก เข่าได้อย่างเดียว ใช้เวลาประกอบไม่นาน อย่างไรก็ตามในกลางปี 2007 เกรดนี้ ได้มีการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม คือ มีการแยกสีมาให้ในแต่ละพาร์ท แต่ยังคงเป็นสีเดียวทั้งชิ้น และยังคงต้องทำสีเพิ่ม รวมถึงง่ายต่อการตัดจากแผงพลาสติก ซึ่งจะมีอยู่ทุกซีรีย์ของกันดั้มอยู่แล้ว ซึ่งภาคล่าสุดที่จะทำออกมาในเดือนตุลาคมเป็นของ Gundam AGE
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดง ด้านหน้ากล่องจะเขียนอย่างจัดเจนเลยว่า FG

First Grade เรียกกันสั้น ๆ ว่า FG
เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2000 โดยเริ่มทำจาก ชุดคิท พลาสติกโมเดล 3 แบบได้แก่ กันดั้ม RX-78-2, MS-06 ZAKU II Mass-Production Type และ MS-06S Zaku II Char Custom ชุดคิทนี้ไม่แยกสีมาให้ สีเดียวทั้งตัว จัดว่าต้องทำสีเองทั้งตัว ในชุดแรกเมื่อประกอบเสร็จ ส่วนใหญ่จะขยับข้อศอก เข่าได้อย่างเดียว ใช้เวลาประกอบไม่นาน อย่างไรก็ตามในกลางปี 2007 เกรดนี้ ได้มีการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม คือ มีการแยกสีมาให้ในแต่ละพาร์ท แต่ยังคงเป็นสีเดียวทั้งชิ้น และยังคงต้องทำสีเพิ่ม รวมถึงง่ายต่อการตัดจากแผงพลาสติก ซึ่งจะมีอยู่ทุกซีรีย์ของกันดั้มอยู่แล้ว ซึ่งภาคล่าสุดที่จะทำออกมาในเดือนตุลาคมเป็นของ Gundam AGE
ตัวอย่าง : ในกรอบสีแดง ด้านหน้ากล่องจะเขียนอย่างจัดเจนเลยว่า FG
บทสรุป
1/144 ทั้งหลาย HG , FC
มีขนาดเล็ก และราคาถูก เหมาะสำหรับผู้ชอบเก็บจำนวนมากๆ แต่อาจจะต้องทำสีบ้างในบางจุดถ้าอยากให้สวยเหมือนจริง
เหมาะสำหรับมือใหม่
1/100 ทั้งหลาย HG
ใหญ่ขึ้นมา แถมราคาก็สูงขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรเล็กๆ การแยกสีดีขึ้น ทำให้ทำสีน้อยลง อีกนัยหนึ่งถ้าต้องการทำสีใหม่ก็ง่าย เพราะมีขนาดใหญ่กว่า
เหมาะสำหรับมือใหม่ แต่บางตัวก็ต่อยากเหมือนกัน
RG
มีขนาดเล็กรายละเอียดเยอะพอ ๆ กับ MG ทีเดียว
เหมาะกับผู้ที่ชำนาญต่อ 1/144 แบบ HG มาก่อน ราคาอยู่กลาง ๆ ไม่ถูกไม่แพง
MG
MG มันมีขนาด 1/100 ซึ่งจะได้ตัวที่ใหญ่ คุณไม่ต้องทำสีก็สวยแทบจะเหมือต้นฉบับ ลูกเล่นอะไรต่างๆก็ทำได้สมจริง เรียกได้ว่าซื้อมาปุ๊บแล้วต่อ สวยเลย
มือใหม่โปรดพิจารณา ถึงต่อตามใบต่อจะไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องระวัง และราคาค่อนข้างแพง
1/60 , Megasize 1/48
ใหญ่โต เหมาะสำหรับคนมีที่เยอะ จะตั้งเด่นดูเห็นแต่ไกล
เหมาะกับผู้ที่เริ่มต่อเพราะมีขนาดใหญ่และต่อง่าย แต่ต้องคิดถึงเรื่องราคากันนิดนึงเพราะราคาแพงเอาการอยู่
PG
รายละเอียดขั้นเทพ ต่อทีใช้เวลานานแน่อน และอาจจะต้องมีการเดินสายไฟในตัวหุ่น
ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่อย่างยิ่ง และราคาที่แพงมากด้วย
SD
เหมาะกับนักทำสีมือใหม่ เพราะรายละเอียดไม่มาก แต่จะต่อเฉยๆก็น่ารักไม่เบา เหมาะสำหรับมือใหม่
1/144 ทั้งหลาย HG , FC
มีขนาดเล็ก และราคาถูก เหมาะสำหรับผู้ชอบเก็บจำนวนมากๆ แต่อาจจะต้องทำสีบ้างในบางจุดถ้าอยากให้สวยเหมือนจริง
เหมาะสำหรับมือใหม่
1/100 ทั้งหลาย HG
ใหญ่ขึ้นมา แถมราคาก็สูงขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรเล็กๆ การแยกสีดีขึ้น ทำให้ทำสีน้อยลง อีกนัยหนึ่งถ้าต้องการทำสีใหม่ก็ง่าย เพราะมีขนาดใหญ่กว่า
เหมาะสำหรับมือใหม่ แต่บางตัวก็ต่อยากเหมือนกัน
RG
มีขนาดเล็กรายละเอียดเยอะพอ ๆ กับ MG ทีเดียว
เหมาะกับผู้ที่ชำนาญต่อ 1/144 แบบ HG มาก่อน ราคาอยู่กลาง ๆ ไม่ถูกไม่แพง
MG
MG มันมีขนาด 1/100 ซึ่งจะได้ตัวที่ใหญ่ คุณไม่ต้องทำสีก็สวยแทบจะเหมือต้นฉบับ ลูกเล่นอะไรต่างๆก็ทำได้สมจริง เรียกได้ว่าซื้อมาปุ๊บแล้วต่อ สวยเลย
มือใหม่โปรดพิจารณา ถึงต่อตามใบต่อจะไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องระวัง และราคาค่อนข้างแพง
1/60 , Megasize 1/48
ใหญ่โต เหมาะสำหรับคนมีที่เยอะ จะตั้งเด่นดูเห็นแต่ไกล
เหมาะกับผู้ที่เริ่มต่อเพราะมีขนาดใหญ่และต่อง่าย แต่ต้องคิดถึงเรื่องราคากันนิดนึงเพราะราคาแพงเอาการอยู่
PG
รายละเอียดขั้นเทพ ต่อทีใช้เวลานานแน่อน และอาจจะต้องมีการเดินสายไฟในตัวหุ่น
ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่อย่างยิ่ง และราคาที่แพงมากด้วย
SD
เหมาะกับนักทำสีมือใหม่ เพราะรายละเอียดไม่มาก แต่จะต่อเฉยๆก็น่ารักไม่เบา เหมาะสำหรับมือใหม่
No comments:
Post a Comment